วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

นิวเคลียร์

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ (อังกฤษ: Nucelear Power Plant) เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนที่ใช้แหล่งพลังงานความร้อนจากเครื่องปฏิกรณ์ที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ใน การผลิตกระแสไฟฟ้า โดยเครื่องปฏิกรณ์ที่ใช้ในการผลิตพลังงานคิวเคลียร์ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่ เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบวิจัย (Research Reactor) ที่ใช้ประโยชน์จากนิวตรอนฟลักซ์ในการวิจัย และระบายความร้อนที่เกิดขึ้นออกสู่ชั้นบรรยากาศ และเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์กำลัง (Power Reactor) ที่ใช้พลังความร้อนที่เกิดขึ้นเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์กำลัง มีขนาดใหญ่โตกว่าเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์วิจัยเป็นอย่างมาก โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นโรงไฟฟ้าชนิดที่ผลิตพลังงานคงที่ โดยไม่ขึ้นกับการกำลังใช้งานที่จ่ายจริง ดังนั้นจึงจะมีประสิทธิภาพดีถ้าต้องจ่ายกำลังไฟฟ้าคงที่ (ในขณะที่โรงไฟฟ้าที่ใช้การต้มน้ำ สามารถลดการจ่ายไฟลงครึ่งหนึ่งได้เวลากลางคืน) กำลังไฟที่หน่วยผลิตจ่ายได้นั้นอาจมีตั้งแต่ 40 เมกะวัตต์ จนถึงเกือบ 2000 เมกะวัตต์ ในปัจจุบันหน่วยผลิตที่สร้างกันมีขอบเขตอยู่ที่ 600-1200 เมกะวัตต์ในปี พ.ศ. 2548 มีเครื่องปฏิกรณ์ทำงานอยู่ 441 เครื่องทั่วโลก รวมแล้วผลิตกำลังไฟฟ้าเป็น 1 ใน 6 ส่วนของพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดในโลก โดยสหรัฐอเมริกามีจำนวนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ มากที่สุด ตามมาด้วย ฝรั่งเศส






อาวุธนิวเคลียร์ (อังกฤษ: Nuclear Weapon) เป็นอาวุธที่อาศัยพลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ มีอำนาจการทำลายล้างสูง อาวุธนิวเคลียร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดสามารถทำลายเมืองใหญ่ทั้งเมืองได้ ในอดีตอาวุธนิวเคลียร์ถูกนำมาใช้ในสงครามเพียง 2 ครั้งเท่านั้นในประวัติศาสตร์ โดยสหรัฐอเมริกาได้ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่ม เมืองฮิโระชิมะ และนะงะซะกิ ของญี่ปุ่น ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง และยังมีการทดสอบอีกหลายร้อยครั้งภายใต้การรับรองจากหลายประเทศประเทศ ที่ประกาศว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, รัสเซีย, สหราชอาณาจักร,ประเทศอิตาลี, จีน, อินเดีย, ปากีสถาน และ เกาหลีเหนือ นอกจากนี้เชื่อกันว่าอิสราเอล, ยูเครน ประเทศพม่า อิหร่าน อาจมีหรือกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อยู่




อุบัติเหตุนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิ
เป็นเหตุการณ์ที่อุปกรณ์เครื่องมือขัดข้องและปลดปล่อยสารกัมมันตรังสีที่เกิดขึ้น ณ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิ หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าวประกอบด้วยเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำเดือดจำนวน 6 เครื่องแยกกัน บำรุงรักษาโดยบริษัทผลิตไฟฟ้าโตเกียว (TEPCO) ผู้เชี่ยวชาญมองว่าอุบัติเหตุนิวเคลียร์ครั้งนี้เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุด เป็นอันดับที่สองตามหลังอุบัติภัยเชอร์โนบิล แต่มีความซับซ้อนกว่าเนื่องจากเครื่องปฏิกรณ์ทั้งหมดได้รับผลกระทบ ขณะที่เกิดแผ่นดินไหวขึ้นนั้น เครื่องปฏิกรณ์ที่ 4 ถูกนำแท่งเชื้อเพลิงออก ส่วนเครื่องปฏิกรณ์ที่ 5 และ 6 ถูกดับเครื่องสนิทตามกำหนดบำรุงรักษา เครื่องปฏิกรณ์ที่เหลือถูกปิดลงอัตโนมัติหลังจากเกิดแผ่นดินไหว และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าฉุกเฉินเริ่มผลิตพลังงานเพื่อทำงานอิเล็กทรอนิกส์ควบ คุมและปั๊มน้ำที่จำเป็นสำหรับใช้ลดอุณหภูมิ โรงไฟฟ้าได้รับการป้องกันจากกำแพงกันคลื่นที่สามารถทนรับคลื่นสึนามิความสูง 5.7 เมตรได้ แต่คลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นหลังจากแผ่นดินไหว 15 นาทีนั้น สูงถึง 14 เมตร ผลกระทบทำให้โรงไฟฟ้าทั้งหมดถูกน้ำท่วม รวมทั้งเครื่องปฏิกรณ์ที่สูงจากระดับน้ำทะเลไม่มากนักและในส่วนสวิตช์เกียร์ ไฟฟ้าในฐานของเครื่องปฏิกรณ์ด้วย นอกจากนี้ การเชื่อมต่อกับสายส่งไฟฟ้าพังเสียหาย พลังงานทั้งหมดที่ใช้สำหรับหล่อเย็นจึงสูญเสียไปและเครื่องปฏิกรณ์เริ่มมี ความร้อนเกินจากการสลายตัวของสารที่ได้จากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชั่นที่เกิดขึ้นก่อนดับเครื่อง ความเสียหายจากน้ำท่วมและแผ่นดินไหวทำให้การนำความช่วยเหลือมาจากที่อื่นประสบความยากลำบาก


                    
 การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ !